10 โครงการพระราชดำริ ฯ

10 โครงการพระราชดำริ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

ความรักและความห่วงใยพสกนิกรของพระองค์ท่าน สะท้อนผ่านการทรงงานอย่างหนักเพื่อให้ราษฎร มีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นในทุกด้าน ทุกๆ เดือน ทุกๆ ปี พระองค์ท่านทรงสร้างโครงการตามพระราชดำริขึ้นมาเพื่อให้ประชาชนชาวไทย ได้อยู่กันอย่างผาสุกตลอดไป

1. โครงการประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์

โครงการพระราชดำริ

จากคลองลัดโพธิ์ในเขตอำเภอพระประแดงจังหวัดสมุทรปราการที่แรกเริ่มเดิมทีขุดขึ้นเพื่อเป็นเส้นทางลัดระหว่างลำน้ำเจ้าพระยาที่คดโค้งเมื่อขาดการใช้งานมาเป็นเวลานานจึงมีสภาพตื้นเขินและเมื่อถึงฤดูที่ น้ำเหนือไหลหลากหรือมีปริมาณฝนตกชุกการระบายน้ำจึงเป็นไปได้ช้า และเกิดสภาพน้ำาท่วมขังพื้นที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9) มีแนวพระราชดำริปรับปรุงคลองลัดโพธิ์โดยจัดทำเป็นโครงการประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อเร่งระบายน้ำเหนือออกสู่ทะเลช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ และปริมณฑลเนื่องจากคลองที่ขุดขยายเป็นการย่นระยะทางและเวลาการไหลของน้ำในบริเวณพื้นที่กระเพาะหมู ที่แต่เดิมแม่น้ำเจ้าพระยาต้องไหลอ้อมถึง 18 กิโลเมตร ก็สามารถไหลลงทะเลได้รวดเร็วขึ้น ด้วยระยะทางเพียง 600 เมตร ทั้งยังสามารถบริหารจัดการนด้วยการเปิด-ปิดประตูระบายน้ำให้เหมาะสมและสอดคล้องกับเวลาน้ำขึ้น-น้ำลงและน้ำทะเลหนุนสูง

โครงการพระราชดำริ

นอกจากนี้ประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ยังมีศักยภาพในด้านการผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังน้ำ

ซึ่งกรมชลประทานได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทำการศึกษาและวิจัยประดิษฐ์กังหันไฟฟ้าพลังน้ำไหลต้นแบบขึ้นมาสองแบบ

คือ แบบหมุนตามแนวแกนและแบบหมุนขวางการไหล

ทั้งยังคำนึงถึงสภาพทางสังคมและชุมชน

นับเป็นการแก้ไขปัญหาด้วยการใช้หลักธรรมชาติเพื่อให้มนุษย์อยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน

ประโยชน์ของการลัดน้ำของคลองลัดโพธิ์ได้สร้างความสุขให้แก่ประชาชนในพื้นที่ให้ดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

โครงการพระราชดำริ

โครงการประตูระบายน้ำาคลองลัดโพธิ์
ม. 9 ต.ทรงคะนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ 10130
โทร : 0 2464 2058
เปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 08.00 - 16.00 น.
ฤดูกาลท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี



การเดินทาง กรุงเทพฯ - โครงการประตูระบายน้ำาคลองลัดโพธิ์
พิกัดภูมิศาสตร์ : N13° 39.877’ E100° 32.325’
LAT 13.666776 LONG 100.537085
จากถนนสุขสวัสดิ์

ไปยังถนนนครเขื่อนขันธ์ วิ่งเข้าถึงตลาดพระประแดง

แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเพชรหึงษ์ ตรงไปเรื่อยๆ

ก็จะถึงสวนสุขภาพลัดโพธิ์และโครงการประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์



2. โครงการพัฒนาดอยตุง

โครงการพระราชดำริ

โครงการพระราชดำริ

“ฉันจะปลูกป่าดอยตุง”

พระราชดำรัสของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือสมเด็จย่า

ที่ในเวลาต่อมาได้ก่อตั้งเป็นโครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน)

อันเนื่องมาจากพระราชดำริ

โดยพระองค์ทรงได้รับ แรงบันดาลใจจากพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

(รัชกาลที่ 9)

ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ด้วยทรงสังเกตเห็นว่าชาวไทยภูเขาส่วนใหญ่ยากจนและขาดโอกาสในการดำเนินชีวิต

พระองค์จึงมีพระราชปณิธานริเริ่มทำเป็นโครงการพัฒนาแบบเบ็ดเสร็จ

ภายใต้การดำเนินงานของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมป์

เพื่อขยายผลการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ให้มีความรู้ มีอาชีพ

สามารถเลี้ยงตัวเองได้

พร้อมกับพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เคยเสื่อมโทรมบนดอยตุงให้กลับมีความอุดมสมบูรณ์

ด้วยการปลูกป่าและส่งเสริมให้มนุษย์อยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างมีจิตสำนึกและพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน


โครงการพระราชดำริ

นับเป็นอีกหนึ่งโครงการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง

เป็นตัวอย่างที่ดีของการพัฒนากิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ

ไม่ใช่แค่การปลูกพืชทดแทน แต่เป็นการพัฒนาที่มีความหลากหลายในการดำรงชีวิตที่ทำได้จริง

โดยเป้าหมายสูงสุดเพื่อให้ชุมชนดอยตุงสามารถพึ่งพาตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โครงการพระราชดำริ

โครงการพัฒนาดอยตุง
ศูนย์ท่องเที่ยวและบริการ สำนักงานประสานงาน โครงการพัฒนาดอยตุง อาคารอเนกประสงค์ พระตำหนักดอยตุง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย 57000
โทร : 0 5376 7015-7
เปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 07.00-18.00 น.
เว็บไซต์ : www.doitung.com , www.doitung.org
ฤดูกาลท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

การเดินทาง เชียงราย - โครงการพัฒนาดอยตุง
พิกัดภูมิศาสตร์ : N20° 17.351’ E99° 48.661’
LAT 20.297622 LONG 99.810610
จากอำเภอเมืองเชียงรายไปตามทางหลวงหมายเลข

110 (เชียงราย-แม่สาย) ระยะทางประมาณ 45 กิโลเมตร ถึงหลักกิโลเมตรที่

870-871 มีป้ายบอกทางแยกซ้ายพระตำหนักดอยตุง ระยะทางอีก 17 กิโลเมตร



3. โครงการชั่งหัวมัน

โครงการพระราชดำริ

บ้านไร่ของในหลวงแห่งนี้

เป็นอีกหนึ่งโครงการตามแนวพระราชดำริที่เกิดขึ้นจากความเอาพระราชหฤทัยใส่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

(รัชกาลที่ 9)

ที่ทรงมีต่อราษฎรให้สามารถนำแนวทางไปดัดแปลงใช้อย่างเหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อผืนดินของตนเอง

เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

โดยทรงใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ซื้อที่ดินจากราษฎรบริเวณใกล้อ่างเก็บน้ำหนองเสือ

บ้านหนองคอไก่ อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ประมาณ 250 ไร่

ซึ่งผืนดินบริเวณนี้แห้งแล้ง ประสบปัญหาเรื่องการขาดแคลนน้ำ

มีพระราชดำริให้ใช้พื้นที่ทั้งหมดจัดทำเป็นโครงการตัวอย่างแบบบูรณาการด้านการเกษตรและปศุสัตว์

ภายใต้ชื่อ “โครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดำริ” โดยสร้างถนน อ่างเก็บน้ำ

อาคาร ติดตั้งระบบไฟฟ้า

พัฒนาปรับปรุงและปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้เป็นแปลงปลูกพืชผัก ผลไม้

และสัตว์เลี้ยง ขณะเดียวกันก็พยายามเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส

โดยคาดหวังว่าอนาคตที่นี่จะกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตรที่สมบูรณ์แบบสำหรับประชาชนทั่วไป



โครงการชั่งหัวมัน
1 ม.5 บ้านหนองคอไก่ ต.เขากระปุก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี 76130
โทร : 0 3247 2701-2 , 0 3265 3868
เปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 08.00-16.00 น.
ฤดูกาลท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี



การเดินทาง กรุงเทพฯ - โครงการชั่งหัวมัน
พิกัดภูมิศาสตร์ : N12° 44.699’ E99° 42.330œ’
LAT 12.747213 LONG 99.703830
จากกรุงเทพฯ

ใช้ถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) ผ่านจังหวัดนครปฐม ราชบุรี

ผ่านตัวเมืองเพชรบุรีไปประมาณ 20 กิโลเมตร

ขับผ่านสี่แยกไฟแดงท่ายางมาประมาณ 4 กิโลเมตร พบทางแยกขวามือ

ให้เลี้ยวขวาไปอีก 15 กิโลเมตร แล้วตรงไปสะพานสามแยกไปทางเขาลูกช้าง

จากจุดนี้มีป้ายบอกไปโครงการชั่งหัวมัน ให้ขับตามป้ายไปราว 20 กิโลเมตร

ถึงจุดหมายปลายทางที่โครงการชั่งหัวมัน

4. ศูนย์ศึกษาพัฒนาเขาหินซ้อน

โครงการพระราชดำริ

จากสภาพพื้นที่เดิมในบริเวณนี้ที่เนื้อดินเป็นทราย

ขาดความอุดมสมบูรณ์ มีการชะล้างพังทลายของดินสูง ดินรองรับน้ำได้น้อย

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9)

มีแนวพระราชดำริกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ให้ร่วมกันพัฒนาพื้นที่แห่งนี้จัดตั้งเป็นศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน

อันเนื่องมาจากพระราชดำริขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเป็นแหล่งรวบรวม

ศึกษา ทดลอง วิจัย

และพัฒนาปรับปรุงพื้นที่ทางการเกษตรให้เป็นศูนย์ด้านเกษตรกรรมที่สมบูรณ์แบบด้วยวิธีการเกษตรแผนใหม่

ทั้งการพัฒนาแหล่งน้ำ ฟื้นฟูสภาพป่า การพัฒนาที่ดิน

การวางแผนปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสพึ่งพาตนเองได้

อีกทั้งยังจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิตและเป็นศูนย์รวมการพัฒนาแบบเบ็ดเสร็จ

ถือเป็นต้นแบบแนวทางและตัวอย่างการพัฒนาให้แก่พื้นที่อื่นได้อย่างยั่งยืน

โครงการพระราชดำริ

ศูนย์ศึกษาพัฒนาเขาหินซ้อน
7 ม.2 ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา 24120
โทร : 0 3855 4982-3
เปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น.
เว็บไซต์ : www.khaohinsorn.com
ฤดูกาลท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี



การเดินทาง กรุงเทพฯ - ศูนย์ศึกษาพัฒนาเขาหินซ้อน
พิกัดภูมิศาสตร์ : N13° 45.210’ E101° 30.131’
LAT 13.753684 LONG 101.500191
จากกรุงเทพ

ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 304 ไปทางมีนบุรี มุ่งสู่จังหวัดฉะเชิงเทรา

ระยะทางประมาณ 75 กิโลเมตร จากตัวเมืองฉะเชิงเทราใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 304

ไปทางอำเภอพนมสารคาม บริเวณกิโลเมตรที่ 51 - 52



5. ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน

โครงการพระราชดำริ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

(รัชกาลที่ 9) มีพระราชดำริแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เมื่อ พ.ศ.

2524 ความว่า

“…ให้พิจารณาพื้นที่เหมาะสม จัดทำโครงการพัฒนาอาชีพการประมงและการเกษตรในเขตที่ดินชายฝั่งทะเลจันทบุรี…”


โครงการพระราชดำริ

ต่อมาจังหวัดจันทบุรีได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ

ที่เกี่ยวข้องพิจารณาความเหมาะสม กำหนดบริเวณตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่

ให้เป็นพื้นที่จัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนขึ้น

เพื่อดำเนินการศึกษา สาธิต

และพัฒนาที่ดินชายฝั่งทะเลอ่าวคุ้งกระเบนและพื้นที่ใกล้เคียง

ด้วยการวางแผนพัฒนาจัดการทรัพยากรที่มีอยู่ให้เหมาะสมและยั่งยืนอย่างมีระบบ

ตั้งแต่การศึกษาทดลอง วิจัย ทดสอบ สาธิต ขยายผล และการบริหารจัดการ

โดยมุ่งเน้นการพัฒนาสู่ประชาชนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง

เป็นศูนย์กลางในการอบรมเผยแพร่ผลการศึกษา การจัดการทรัพยากรชายฝั่ง

พัฒนาด้านการประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเพื่อเพิ่มผลผลิต

ตลอดจนพัฒนากิจกรรมอื่นๆ แบบบูรณาการควบคู่ไปด้วย

พร้อมทั้งอนุรักษ์ฟื้นฟูและจัดการทรัพยากรชายฝั่งทะเลให้เกิดความสมดุลในระบบนิเวศ

ส่งเสริมกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่ที่สอดคล้องกับศักยภาพเชิงวัฒนธรรมและวิถีชุมชน

เพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจให้กับประชาชน

เป็นการท่องเที่ยวเชิงพัฒนาที่นอกจากจะได้รับความเพลิดเพลินแล้ว

ยังสามารถนำไปปฏิบัติตามได้ ทำให้ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนได้รับรางวัลยอดเยี่ยมในปี 2543

และรางวัลดีเด่นในปี 2545 ประเภทองค์กรส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยว

ในการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

โครงการพระราชดำริ

โครงการพระราชดำริ

ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน
ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี 22120
โทร : 0 3943 3216-8
เปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น.
ฤดูกาลท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี



การเดินทาง กรุงเทพฯ - ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน
พิกัดภูมิศาสตร์ : N12° 34.217’ E101° 54.000’
LAT 12.571604 LONG 101.895685
จากกรุงเทพฯ

ใช้ถนนสุขุมวิทมุ่งหน้าสู่จังหวัดจันทบุรี จนถึงช่วงหลักกิโลเมตรที่

301-302 ให้เลี้ยวขวาที่เเยกหนองสีงา

จากนั้นวิ่งตรงเข้ามาตามเส้นทางหลักเรื่อยๆ อีกประมาณ 27 กิโลเมตร

ซึ่งจะผ่านทั้งวัดวังหิน วัดรำพัน วัดท่าศาลา

และเมื่อถึงทางแยกที่ตัดกับทางจะไปหาดคุ้งวิมาน ก็ให้เลี้ยวซ้าย

มุ่งหน้าตรงไปสักระยะจะมีป้ายบอกจุดหมายคือศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอยู่เป็นระยะ

6. สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์

โครงการพระราชดำริ

เป็นที่ทราบกันดีว่าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์มีความอุดมสมบูรณ์ของขุนเขาและป่าไม้

ทั้งยังเป็นสถานที่ตั้งของสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ สถานีวิจัยของมูลนิธิโครงการหลวงอีกแห่งหนึ่งที่ดำเนินงานวิจัยด้านไม้คัดดอก

ไม้ประดับ พืชผัก ผลไม้ และงานประมงบนพื้นที่สูง

รวมทั้งถ่ายทอดผลงานวิจัยที่จะนำไปสู่การส่งเสริมอาชีพเพื่อให้เกษตรกรชาวไทยภูเขาเผ่าปกาเกอะญอและเผ่าม้งมีรายได้

พร้อมกับการพัฒนาปัจจัยพื้นฐานด้านสังคมและการอนุรักษ์ป่าไม้ ต้นน้ำลำธาร

โดยมุ่งวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี

ส่งเสริมชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่ชุมชนบนพื้นที่สูง รักษาสภาพแวดล้อม

และเป็นแหล่งการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาชีวิตอย่างยั่งยืน

โครงการพระราชดำริ

นอกจากนี้

ทางสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ยังมุ่งเน้นพัฒนาด้าน ส่งเสริมให้เกษตรกรเพาะปลูกพืชภายใต้ระบบมาตรฐานอาหารปลอดภัย

ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพภาคการเกษตรทั้งพืชผักอินทรีย์ ไม้ผลขนาดเล็ก

ไม้ผลเขตหนาว ไม้ผลเขตร้อน กาแฟ พืชไร่ และดอกไม้แห้ง

ควบคู่ไปกับการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพนอกภาคการเกษตร

ได้แก่ การพัฒนาด้านความเข้มแข็งและคุณภาพขององค์กร ชุมชน

ตามปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9)

รวมทั้งการเตรียมความพร้อมของชุมชนด้านการท่องเที่ยวด้วย

โครงการพระราชดำริ

โครงการพระราชดำริ

สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์
202 ม.7 หมู่บ้านขุนกลาง ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ 50160
โทร : 0 5328 6771-2 ต่อ 14-15, 08 0769 1944
เปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.
ฤดูกาลท่องเที่ยว : พฤศจิกายน - กุมภาพันธ์



การเดินทาง เชียงใหม่ - สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์
พิกัดภูมิศาสตร์ : N18° 32.637’ E98° 31.065’
LAT 18.542621LONG 98.517207
จากอำเภอเชียงใหม่ใช้เส้นทางสายเชียงใหม่-ฮอด

ตามทางหลวงหมายเลข 108 ถึงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 57

ซึ่งอยู่ก่อนถึงตัวอำเภอจอมทอง ประมาณ 1 กิโลเมตร

จะมีทางแยกขวามือเข้าทางหลวงหมายเลข 1009 (สายจอมทอง-อินทนนท์)

ไปตามเส้นทางสายนี้จนถึงหลักกิโลเมตรที่ 31 มีทางแยกขวามือบ้านขุนกลาง

เข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร จะถึงสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์

รวมระยะทางจากอำเภอเมืองเชียงใหม่ถึงสถานีฯ ราว 91 กิโลเมตร



7. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์

โครงการพระราชดำริ

โครงการพระราชดำริ

เป็นอีกหนึ่งโครงการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

(รัชกาลที่ 9) ที่ทำการวิจัย ทดสอบ

ค้นหาสายพันธุ์ของพืชที่สามารถต้านทานโรค เหมาะสมต่อสภาพพื้นที่และฤดูกาล

ให้ผลิตผลที่ดีมีคุณภาพ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดแนะนำ

ส่งเสริมพัฒนาอาชีพให้กับเกษตรกรชาวไทยภูเขาเผ่าปกาเกอะญอหรือเผ่ากะเหรี่ยงให้มีรายได้เลี้ยงชีพแบบพออยู่พอกิน

ด้วยการปลูกพืชผัก ผลไม้ เลี้ยงสัตว์

รวมถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตในด้านสังคม การศึกษา สาธารณสุข

ความเข้มแข็งของชุมชน และฟื้นฟูอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม

และวัฒนธรรมประเพณีของชนเผ่าให้คงอยู่ตลอดไป

โครงการพระราชดำริ

ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์
ม.7 ต.บ้านจันทร์ อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ 58130
โทร : 0 5331 8325 , 08 4365 5405
เปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.
ฤดูกาลท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี



การเดินทาง เชียงใหม่ - ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์
พิกัดภูมิศาสตร์ : N19° 04.165’ E98° 17.500’
LAT 18.935673 LONG 98.373324
จากอำเภอเมืองเชียงใหม่

ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 107 เข้าสู่อำเภอแม่ริม มุ่งไปยังทางหลวงหมายเลข

1096 ผ่านอำเภอสะเมิงไปบ้านบ่อแก้ว เข้าสู่บ้านวัดจันทร์ รวมระยะทางราว 154

กิโลเมตร



8. โรงเรียนกาสรกสิวิทย์

โครงการพระราชดำริ

โครงการพระราชดำริ

จากที่ดินกว่าร้อยไร่ในเขตอำเภอเมืองสระแก้ว

จังหวัดสระแก้ว ที่ นายสมจิตต์ และนางมณี อิ่มเอย น้อมเกล้าฯ

ถวายแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มูลนิธิชัยพัฒนาดำเนินการจัดตั้งเป็นโรงเรียนกาสรกสิวิทย์

ด้วยวัตถุประสงค์ที่ต้องการให้เป็นศูนย์กลางการใช้ประโยชน์จากกระบือในด้านเกษตรกรรมระดับพื้นบ้าน

และเป็นสถานที่สำหรับฝึกกระบือให้สามารถไถนาและทำงานด้านการเกษตรกรรมร่วมกับชาวนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ


โครงการพระราชดำริ

โดยทางโรงเรียนได้เชื่อมโยงกับธนาคารโคกระบือ

เมื่อมีนักเรียนเข้ามาฝึกกับปราชญ์ท้องถิ่นภายในโรงเรียน

ก็จะมีการเบิกกระบือออกมาจากธนาคาร

เพื่อให้กระบือตัวนั้นมาเรียนรู้ ร่วมไปกับนักเรียน

อีกทั้งยังให้ความรู้ในเรื่องของวิถีชีวิตชุมชน วัฒนธรรมการเกษตรท้องถิ่น

ความเป็นอยู่แบบพื้นบ้านที่เรียบง่าย

และการใช้ชีวิตแบบพอเพียงตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

(รัชกาลที่ 9)

เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันพร้อมกับดูแลสภาพแวดล้อมและรักษาธรรมชาติให้สามารถอยู่ร่วมกัน ได้อย่างยั่งยืน

โครงการพระราชดำริ

โรงเรียนกาสรกสิวิทย์
999 ต.ศาลาลำดวน อ.เมืองฯ จ.สระแก้ว 27000
โทร : 0 3724 4657
เว็บไซต์ : www.kasorn.com
เปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 08.00 - 17.00 น.
ฤดูกาลท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี



การเดินทาง กรุงเทพฯ - โรงเรียนกาสรกสิวิทย์
พิกัดภูมิศาสตร์ : N13° 51.340’ E102° 01.160’
LAT 13.859060 LONG 102.018866
ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข

1 (พหลโยธิน) ถึงรังสิต แล้วใช้สะพานวงแหวน แยกขวาเข้าเส้นทางหมายเลข 305

เลียบคลองรังสิต ผ่านอำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก

แล้วแยกขวาใช้เส้นทางหมายเลข 33 ผ่านอำเภอกบินทร์บุรี

อยู่ก่อนถึงจังหวัดสระแก้วประมาณ5 กิโลเมตร



9. โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง

โครงการพระราชดำริ

ลุ่มน้ำปากพนังในอดีตเคยอุดมสมบูรณ์

เปรียบเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของจังหวัดนครศรีธรรมราช แต่เมื่อกาลเวลา ผ่านไป

กลับประสบปัญหาหลายประการ ด้วยสาเหตุจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป

ประชากรมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น สภาพดินมีปัญหา นิเวศแหล่งน้ำขาดสมดุล

เกิดปัญหาอุทกภัย

น้ำเค็มรุกเข้าไปในแม่น้ำปากพนัง ทำให้ชาวบ้านใช้น้ำในการอุปโภค

บริโภคไม่ได้

ปัญหาของดินเปรี้ยวรวมทั้งน้ำเน่าเสียจากพื้นที่ทำนากุ้ง ไหลลงสู่ลำน้ำต่างๆ

จนไม่สามารถนำน้ำไปใช้ในการเพาะปลูกได้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

(รัชกาลที่ 9) จึงมีพระราชดำริให้จัดตั้งโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง

อันเนื่องมาจากพระราชดำริ

ขึ้นเพื่อเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยพลิกฟื้นความอุดมสมบูรณ์เพื่อให้กลับคืนสู่พื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง

ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อให้ราษฎรในพื้นที่ได้ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีอยู่ได้อย่างเต็มที่และยั่งยืน

มีการน้ำระบบอนุรักษ์ดินและน้ำมาใช้

มีการปรับปรุงบำรุงดินเพื่อเพิ่มผลผลิตให้มากขึ้นเป็นการสร้างรายได้

ถ่ายทอดเทคโนโลยีการพัฒนาที่ดินให้แก่เกษตรกรได้มีส่วนร่วมและรับผิดชอบในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาทรัพยากรที่ดินอย่างจริงจังและ ต่อเนื่อง

ส่งเสริมการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตข้าวและการเกษตรในพื้นที่โครงการฯ

ให้เป็นแหล่งผลิต พันธุ์พืชที่เคยเป็นมาในอดีตให้กลับคืนมาสู่ประชาชนลุ่มน้ำปากพนังเพื่อความเป็นอยู่ที่ยั่งยืนต่อไป



โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำาปากพนัง
ม.5 ต.หูล่อง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช 80140
โทร : 0 7541 6127-8
เปิดทำการ : จันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.00-16.00 น.
ฤดูกาลท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี



การเดินทาง กรุงเทพฯ - โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำาปากพนัง
พิกัดภูมิศาสตร์ : N8° 19.036’ E100° 12.222’
LAT 8.313882 LONG 100.190779
จากกรุงเทพฯ

ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (ธนบุรี - ปากท่อ) เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 4

ผ่านจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ จนถึงชุมพร

แล้วเปลี่นมาใช้ทางหลวงหมายเลข 41 ผ่านอำเภอทุ่งสง อำเภอร่อนพิบูลย์

จนถึงจังหวัดนครศรีธรรมราช จากตัวเมืองนครศรีธรรมราช

ไปตามเส้นทางนครศรีธรรมราช-ปากพนังประมาณ 26 กิโลเมตร

ถึงสามแยกใกล้ทางไปสะพานปลาให้เลี้ยวขวาไปทางสะพานปากพนัง ก่อนขึ้นสะพาน

ระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตรภึงสี่แยกเลี้ยวขวาไปตามถนนปากพนัง-เชียรใหญ่

ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึงโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำาปากพนัง



10. โครงการเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

โครงการพระราชดำริ

โครงการพระราชดำริ

โครงการพระราชดำริ

อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่

มากมายด้วยสัตว์น้ำนานาชนิด

กับภูมิทัศน์รอบด้านที่สวยงามด้วยธรรมชาติของสายน้ำต้นไม้

และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

หรือโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

เขื่อนแกนดินเหนียว ขนาดยาวที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย

ในโครงการตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9)

ที่สร้างขึ้นเพื่อช่วยกักเก็บน้ำจากแม่น้ำป่าสัก

ซึ่งมีต้นน้ำอยู่ในจังหวัดเลย เพื่อป้องกันอุทกภัยและภัยแล้ง

เป็นประโยชน์ต่อการเกษตรกรรม

การอุปโภคบริโภคของประชาชนในพื้นที่จังหวัดลพบุรี สระบุรี

และจังหวัดใกล้เคียง มีความยาว 4,860 เมตร สูงราว 36.50 เมตร

โครงการพระราชดำริ

โครงการพระราชดำริ

โครงการเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
บ้านหนองบัว อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี 15140
โทร : 0 3649 4243
เปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 07.00-18.00 น.
ฤดูกาลท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี



การเดินทาง กรุงเทพฯ - โครงการเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
พิกัดภูมิศาสตร์ : N14° 51.931’ E101° 03.841’
LAT 14.861348 LONG 101.063221
ใช้ทางหลวงหมายเลข

1 (ถนนพหลโยธิน) เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 21

ผ่านจังหวัดสระบุรีไปประมาณ 33 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 3017

อีกราว 17 กิโลเมตร ถึงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์


รอบรั้ว มทบ.44